เกาะพีพี

     หมู่เกาะพีพี (Phi Phi Islands) เป็นชื่อเรียกซึ่งอาจจะคุ้นหูนักท่องเที่ยวชาวไทยหลายๆ ท่านอยู่ไม่น้อยในฐานะของกลุ่มเกาะกลางท้องทะเล จ.กระบี่ ที่มีชายหาดสีขาวเนื้อเนียนละเอียดนุ่มเท้า น้ำทะเลเป็นสีเขียวมรกตใสราวกับกระจก อีกทั้งยังมีภูเขาหินปูนลูกน้อยใหญ่เรียงตัวอยู่รายรอบเกาะจนดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์.....ด้วยความงดงามในระดับซึ่งเหนือกว่าหมู่เกาะกลางท้องทะเลหลายๆ แห่งทั่วโลกนี่เองที่ได้ดึงดูดบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง “ทเวนตี้ เซนจูรี่ ฟอกซ์ (20th Century Fox)” ให้เดินทางเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “เดอะบีช (The Beach)” ณ อ่าวมาหยา เกาะพีพีเล (Maya Bay , Phi Phi Leh Island) เมื่อปี พ.ศ.2541 และเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ได้กลายเป็นบทเรียนราคาแพงที่ชาวเกาะพีพีหลายๆ คนยังไม่เคยลืมเลือน

.........................หลากมุมมองของ เกาะพีพีดอน.........................

...................................ทะเลใส ที่ อ่าวต้นไทร...................................

     ทำความรู้จักหมู่เกาะพีพี (Phi Phi Islands) ก่อนเริ่มท่องเที่ยว

     .....จริงๆ แล้ว.....การที่เราจะเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่แห่งใด.....ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่เคยได้รับรู้ข้อมูลโดยละเอียดของสถานที่แห่งนั้นมาก่อน เราก็อาจสามารถเดินทางท่องเที่ยว ณ สถานที่แห่งนั้นๆ ได้อย่างไม่มีปัญหาสักเท่าไหร่นัก แต่หากว่าเรามีโอกาสได้ศึกษาข้อมูลรายละเอียดของสถานที่ที่เราจะไปล่วงหน้าสักหน่อย.....ก็เป็นเรื่องแน่นอนว่าเราจะสามารถวางแผนการเดินทาง จองห้องพัก และจัดกำหนดการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้อย่างเหมาะสมลงตัวมากกว่า อีกทั้งยังช่วยให้เราสังเกตเห็นแง่มุมต่างๆ ของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนั้นๆ ได้ถ้วนทั่วดีกว่าผู้ซึ่งไม่ได้เคยศึกษาข้อมูลล่วงหน้ามาก่อนเลย.....เพราะฉะนั้นหากคุณอยากจะลองท่องเที่ยวหมู่เกาะพีพี (Phi Phi Islands) อย่างมีสีสัน หลากอรรถรส หลายอารมณ์ ก็ลองค่อยๆ ละเลียดอ่านบทความของทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) ไปเรื่อยๆ จนจบนะครับ

................................... เรือในระเบียบ...................................

.........................นภา.....เมฆา.....นาวา.....มหาสมุทร.........................

     เกาะพีพี คือ ชื่อแบบย่นย่อที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมใช้เรียก หมู่เกาะพีพี (Phi Phi Islands) หมู่เกาะซึ่งประกอบไปด้วยเกาะขนาดใหญ่ 2 แห่งที่เรียงตัวอยู่ใกล้เคียงกัน ได้แก่ เกาะพีพีดอน (Phi Phi Don Island) และ เกาะพีพีเล (Phi Phi Leh Island) โดยเกาะแต่ละแห่งต่างก็มีชายหาดสวยๆ เวิ้งอ่าวงามๆ รวมไปถึงภูเขาหินปูนอันสูงชันรายล้อมอยู่เป็นจำนวนมาก.....หมู่เกาะพีพีตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี ร่วมกับ อบต.อ่าวนาง โดยมีหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พพ. 5 ตั้งอยู่บริเวณอ่าวมาหยา เกาะพีพีเล และหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พพ. 6 ตั้งอยู่บนเกาะพีพีดอน

อ่าวต้นไทร ได้รับสมญานามอีกอย่างหนึ่งว่า ประตูสู่หมู่เกาะพีพี

...................................สุดภูผา คือ ท้องทะเล...................................

     .....ว่ากันว่า.....จุดกำเนิดของชื่อ “เกาะพีพี” นั้นมาจากภาษาของชาวเลในอดีตที่เรียกหมู่เกาะแห่งนี้ว่า “ปูเลาปิอาปี” โดยคำว่า “ปูเลา” แปลว่า “เกาะ” ส่วนคำว่า “ปิอาปี” มาจากชื่อต้นไม้ประเภทหนึ่งในกลุ่มแสม – โกงกางซึ่งขึ้นเจริญงอกงามอยู่มากบนเกาะในละแวกนี้.....เมื่อกาลเวลาผ่านไป.....คนท้องถิ่นก็เริ่มมีการใช้คำว่า “ปิอาปี” แบบย่นย่อจนกลายเป็น “บิบี” แล้วจึงเพี้ยนเสียงไปเป็น “พีพี” และกลายเป็นชื่อเรียกของ “เกาะพีพี” ในท้ายที่สุด

........................................ใหญ่ กับ เล็ก........................................

...................................ทิวทัศน์ใกล้ท่าเทียบเรือเฟอรี่...................................

     เกาะพีพีดอน (Phi Phi Don Island) ถือเป็นเกาะซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี โดยมีพื้นที่ทั้งหมดราว 28 ตารางกิโลเมตร (เกาะพีพีดอนมีความกว้างของเกาะประมาณ 3.5 กิโลเมตร และยาวประมาณ 8 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวที่มีความอึดมากสักหน่อยจึงสามารถเดินเท้าไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ ได้เกือบทั่วทั้งเกาะเลยครับ) บริเวณที่ราบทางตอนใต้ของเกาะเป็นที่ตั้งของท่าเทียบเรือขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเพียบพร้อมไปด้วยร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ท และถนนคนเดิน.....ชาวบ้านท้องถิ่นเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้พวกเขาเรียกเกาะแห่งนี้ว่า “เกาะพีพีดอน” ก็เนื่องมาจากลักษณะของผืนแผ่นดินขนาดใหญ่ซึ่งมีความเหมาะสมแก่การอยู่อาศัยและน้ำทะเลไม่สามารถท่วมท้นขึ้นมาถึงได้นั่นเอง

...................................Speedboat ริมฝั่ง...................................

...................................สายใยแห่งความผูกพัน ?...................................

     เกาะพีพีเล (Phi Phi Leh Island) มีขนาดพื้นที่ราว 6.6 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศโดยรอบเป็นภูเขาหินปูนสูงชันเกือบทั่วทั้งเกาะ ไม่มีโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร หรือร้านสะดวกซื้อใดๆ ตั้งอยู่.....ถึงกระนั้น.....บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พพ. 5 (อ่าวมาหยา) ก็ยังมีการสร้างห้องสุขาแบบถาวรเอาไว้เพื่อคอยให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ด้วยสาเหตุที่อาณาบริเวณของเกาะส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนสูงชันและถูกรายล้อมไปด้วยน้ำทะเลจนแทบจะไม่สามารถพบเห็นผืนแผ่นดินหรือหาดทรายกว้างๆ ได้เลยนี่เอง จึงทำให้คนท้องถิ่นในอดีตต่างพากันพร้อมใจตั้งชื่อเกาะแห่งนี้ด้วยคำพูดสั้นๆ ซึ่งกระชับและตรงตัวว่า “เกาะพีพีเล”

.........................เสน่ห์ของภูมิประเทศอันแตกต่าง.........................

บางครั้งสิ่งที่ผูกพันธนาการเราไว้ก็เป็นเพียงแค่เชือกเส้นเล็กๆ ซึ่งยึดโยงอยู่กับชายฝั่งที่ดูเหมือนปลอดภัย

     รอบๆ บริเวณของ “เกาะพีพีดอน” และ “เกาะพีพีเล” นั้นมีเวิ้งอ่าว ชายหาด จุดดำน้ำตื้น และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ อยู่มากมายหลากหลายแห่ง ซึ่งทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) จะค่อยๆ แนะนำสถานที่เหล่านี้ให้คุณผู้อ่านทุกๆ ท่านได้รู้จักในบทความช่วงต่อๆ ไป

     หมู่เกาะพีพี : ปัจจุบันที่ชวนให้ย้อนรำลึกถึงความทรงจำในอดีต

     .....ทุกวันนี้.....ถึงแม้ว่าเราจะยังได้ยินคำกล่าวชื่นชมในความสวยงามของหมู่เกาะพีพีจากเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวที่เพิ่งเคยเดินทางมายังหมู่เกาะแห่งนี้เป็นครั้งแรกอยู่เนืองๆ แต่ผู้เขียนบทความ (ต้นหญ้า : ตฤณ) ซึ่งมีโอกาสได้เดินทางมาเยือนหมู่เกาะพีพีแล้วถึง 4 ครั้ง ก็สามารถสัมผัสถึงความเสื่อมโทรมของสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่ค่อยๆ เพิ่มทวีมากขึ้นได้อย่างชัดเจน

........................................Rainbow Kayak........................................

........................................หลายเพลา ณ อ่าวโละดาลัม........................................

     ภาพของท่าเทียบเรือเฟอรี่ (Ferry) ขนาดใหญ่ซึ่งสร้างยื่นล้ำเข้าไปเหนือผืนน้ำสีเขียวมรกตของ “อ่าวต้นไทร  (Tonsai Bay)” อาคารพาณิชย์ที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมชายหาดเป็นทิวแถวจนอาจเรียกได้ว่ารกรุงรัง ถนนคนเดินคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา อีกทั้งยังมีโรงแรมและรีสอร์ทจำนวนมากมายจนนับแทบไม่หวาดไม่ไหว ทำให้ผู้เขียนอดไม่ได้ที่จะหวนย้อนนึกไปถึงภาพความทรงจำในอดีตเมื่อหลายสิบปีก่อน.....ความทรงจำถึงหมู่เกาะพีพีซึ่งเคยสวยสดใส กอปรไปด้วยสภาพธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์รายล้อมรอบ และงดงามเกินกว่าจะลืมเลือนได้ลง

...............อยากมีกินก็ต้องขยันในวันที่คนอื่นๆ เขาจะมาพักผ่อน...............

..............................แถวหน้ากระดานเรียงเดี่ยว..............................

     .....ครั้งแรกที่มีโอกาสเดินทางมาเยือนหมู่เกาะพีพี (ช่วงเวลาก่อนปี พ.ศ. 2532).....ผู้เขียนยังคงเป็นเพียงแค่เด็กตัวเล็กๆ ซึ่งหากินโดยการเกาะแข้งเกาะขาขอสตางค์บิดามารดาอยู่ โชคดีที่บริษัทซึ่งบิดาของผู้เขียนทำงานอยู่ในขณะนั้นได้จัดโปรแกรมพาพนักงานและครอบครัวมาท่องเที่ยวหมู่เกาะพีพี (ซึ่งผู้เขียนก็ไม่ยอมพลาดโอกาสทองที่จะได้ท่องเที่ยวฟรีๆ โดยไม่ต้องรบกวนเงินในกระเป๋าสตางค์ของบิดามารดาแน่ๆ) .....ช่วงเวลานั้น.....ยังไม่มีการสร้างท่าเทียบเรือใดๆ บนเกาะพีพีดอน ผู้เขียนและครอบครัวซึ่งเดินทางมายังหมู่เกาะพีพีด้วยเรือเฟอรี่จำเป็นต้องต่อเรือหางยาวเพื่อเข้าไปเทียบ ณ ชายหาดงามที่มีเนื้อทรายสีขาวเนียนละเอียดนุ่มเท้าดุจดั่งแป้งฝุ่น (ชายหาดแห่งนี้ คือ “อ่าวต้นไทร” ในปัจจุบันครับ)

........................................เงียบเหงา แต่งดงาม........................................

........................................จังหวะ : Rhythm........................................

     .....สมัยนั้น.....บนเกาะพีพีดอนยังมีที่พักในลักษณะของบังกะโลเป็นหลังๆ เปิดให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งต้องการจะพักค้างแรมบนเกาะตั้งอยู่บริเวณ “อ่าวต้นไทร” เพียงแค่แห่งเดียวชื่อว่า “ต้นไทรวิลเลจ (Tonsai Village)”.....น้ำทะเลด้านหน้าอ่าวต้นไทรเป็นสีเขียวใสราวกับมรกตปราศจากเศษตะกอนสกปรกใดๆ ปลอมปน ใต้ผืนน้ำอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแนวปะการังหลากชนิดหลายสีสัน นักท่องเที่ยวที่ว่ายน้ำได้ไม่แข็งแรงสักเท่าไหร่ก็สามารถเลือกนั่งเรือท้องกระจกแล่นออกไปดูความงดงามของแนวปะการังใต้ผืนน้ำใสได้แบบสบายๆ

.........................อ่าวโละดาลัม ในวันที่คลื่นลมสงบ.........................

........................................ทางออกสู่โลกกว้าง........................................

     “อ่าวโละดาลัม (Loh Dalum Bay)” ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งตรงข้ามของอ่าวต้นไทรก็ยังคงมีหาดทรายสีเปลือกไข่สวยงามบริสุทธิ์เพราะแทบจะไม่เคยมีนักท่องเที่ยวคนใดย่างกรายเหยียบย่ำลงไป และเมื่อผู้เขียนในวัยเด็กได้นั่งเรือหางยาวออกไปวนเที่ยวรอบๆ เกาะพีพีเลก็ยิ่งต้องตกตะลึงในความงดงามของอ่าวมาหยา (Maya Bay).....อ่าวปิเละ (Pileh Bay) และอ่าวโละซามะ (Loh Sarmah Bay) อีกทั้งยังจดจำความรู้สึกตื่นเต้นขณะที่มีโอกาสเข้าไปสังเกตกรรมวิธีเก็บรังนกนางแอ่นภายในถ้ำไวกิ้ง (Viking Cave) ได้ไม่รู้ลืม (.....ในอดีต.....ผู้ได้รับใบอนุญาตทำสัมปทานเก็บรังนกนางแอ่นภายในถ้ำไวกิ้งเคยเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมการเก็บรังนกนางแอ่นภายในถ้ำได้ โดยคิดค่าบำรุงสถานที่เพียงแค่ 10 – 20 บาท/คน แต่ปัจจุบันไม่มีการเปิดถ้ำไวกิ้งให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเยี่ยมชมอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่านักท่องเที่ยวจะยื่นข้อเสนอในการจ่ายค่าบำรุงสถานที่ให้มากแค่ไหนก็ตามครับ)

ทุกๆ อย่างล้วนต้องเปลี่ยนแปลงไป แต่ความทรงจำประทับใจจะคงอยู่ยาวนาน

........................................ภาพถ่ายจากปลายอ่าว........................................

     .....ปัจจุบัน.....สภาพแวดล้อมของหมู่เกาะพีพีได้เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อครั้งอดีตมากจนยากที่จะกลับเป็นดังเก่า น้ำทะเลสีเขียวมรกตซึ่งเคยใสสดสวยเริ่มมีตะกอนขุ่นมัวสกปรกให้เห็นในบางอ่าว (ผู้เขียนลองสอบถามคนท้องถิ่นในการเดินทางไปเยือนเกาะพีพีครั้งล่าสุด ทำให้ได้รับทราบข้อมูลว่าอาจจะมีร้านอาหาร & รีสอร์ทบางแห่งปล่อยน้ำเสียที่ยังไม่ได้รับการบำบัดลงในท่อระบายซึ่งต่อออกสู่ท้องทะเลโดยตรง) ชายหาดบางแห่งที่เคยสะอาดสะอ้านกลับมีขยะจำนวนมากถูกทิ้งไว้เรี่ยราด (ปัญหาการทิ้งขยะของนักท่องเที่ยวที่อ่าวยงกาเส็ม เกาะพีพีดอน) อ่าวโละดาลัมซึ่งเคยสงบงามกลับเต็มไปด้วยผับบาร์ที่เปิดเครื่องเสียงแผดดังสนั่นจนแม้จะล่วงเลยช่วงเวลาเที่ยงคืนไปแล้วก็ยังไม่เลิกรา ฯลฯ.....ชวนให้ผู้เขียนรู้สึกสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าอนาคตของหมู่เกาะพีพีจะเป็นเช่นไรหากสถานการณ์ต่างๆ ยังคงดำเนินไปในทิศทางแบบเดียวกันกับหลายสิบปีที่ผ่านมานี้ ?

...................................ตอนนี้ น้ำลง...................................

........................................เรือยังคงลอยนิ่ง แต่เมฆวิ่งไป........................................

     อ่าวต้นไทร : ประตูสู่หมู่เกาะพีพี

     จากประสบการณ์ที่ได้เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายๆ แห่งในประเทศไทยและบางแห่งก็มีโอกาสเดินทางย้อนกลับไปมากกว่า 1 ครั้ง (ผู้เขียนเดินทางมาเก็บข้อมูลของหมู่เกาะพีพีครั้งล่าสุดเมื่อราวต้นปี พ.ศ. 2557) ทำให้ผู้เขียนบทความตั้งข้อสรุปส่วนตัวแบบง่ายๆ ว่า หากมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งใดในประเทศไทยซึ่งเพิ่งเริ่มเปิดตัวเป็นที่รู้จักใหม่ๆ ก็ควรรีบตัดสินใจเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่แห่งนั้นๆ ก่อนโดยทันที เพราะหากรีรอปล่อยให้ระยะเวลาเนิ่นช้าออกไปเรื่อยๆ ยิ่งนานเท่าไหร่ โอกาสที่ความสวยงามของสถานที่แห่งนั้นจะยิ่งลดลงก็จะค่อยๆ เพิ่มทวีมากขึ้น (สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการบังคับใช้กฎหมายอันเกี่ยวเนื่องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทยยังไม่เข้มงวดเพียงพอล่ะมั้งครับ).....เพราะฉะนั้น.....ผู้เขียนบทความจะขอเลิกพร่ำเพ้อถึงความหลังอันแสนงดงามชั่วคราวแล้วหันมาใส่ใจกับการนำเสนอข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ รอบๆ หมู่เกาะพีพีก่อน (เพื่อให้คุณผู้อ่านได้มีข้อมูลมากเพียงพอที่จะใช้ในการตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวหมู่เกาะพีพี ก่อนที่สภาพแวดล้อมต่างๆ จะทรุดโทรมไปมากกว่านี้).....โดยเริ่มต้นจาก “อ่าวต้นไทร” ประตูสู่หมู่เกาะพีพี

....................ที่ เกาะพีพีดอน ก็มีปรากฏการณ์ทะเลแหวกนะ !....................

...................................ศาลาริมเล...................................

     อ่าวต้นไทร (Tonsai Bay) คือ อ่าวขนาดใหญ่ทางตอนใต้ของเกาะพีพีดอน เป็นที่ตั้งของท่าเทียบเรือเฟอรี่ซึ่งจะมีเรือทั้งจาก จ.กระบี่ และ จ.ภูเก็ต เดินทางมารับส่งนักท่องเที่ยวที่พักค้างแรมบนเกาะแห่งนี้ทุกๆ วันตลอดทั้งปี (ยกเว้นในช่วงเวลาซึ่งมีมรสุมเข้าและกรมเจ้าท่าประกาศห้ามเรือเฟอรี่วิ่ง.....เรือเฟอรี่จึงจะหยุดทำการครับ) บริเวณสะพานท่าเทียบเรือมีด่านเก็บค่าธรรมเนียมผู้ใช้บริการท่าเรือของ อบต.อ่าวนาง ตั้งอยู่.....นักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางมากับเรือเฟอรี่ทุกๆ คนจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการใช้ท่าเทียบเรือในอัตราคนละ 20 บาท

...................................การเดินทางของแสงตะวัน...................................

หนึ่งในจุดชมพระอาทิตย์ตกของ เกาะพีพีดอน อยู่ที่อ่าวโละดาลัม

     สาเหตุที่ “อ่าวต้นไทร” ได้รับสมญานามว่า “ประตูสู่หมู่เกาะพีพี” นั้นไม่ใช่แค่เพียงเพราะว่าอ่าวแห่งนี้เป็นที่ตั้งท่าเทียบเรือเฟอรี่ขนาดใหญ่แห่งเดียวของเกาะพีพีดอน.....หากแต่เรือ Speedboat ทุกๆ ลำซึ่งจัดโปรแกรม One Day Trip “ทัวร์หมู่เกาะพีพี + เกาะไข่นอก” หรือ “ทัวร์หมู่เกาะพีพี + เกาะไม้ไผ่” ที่เดินทางมาจาก จ.ภูเก็ต และ จ.กระบี่ ต่างก็ล้วนแล้วแต่จำเป็นต้องพากลุ่มนักท่องเที่ยวมารับประทานอาหารกลางวันภายในร้านซึ่งตั้งอยู่บริเวณอ่าวแห่งนี้ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น (สรุป คือ ไม่ว่านักท่องเที่ยวจะเลือกเดินทางมายังเกาะพีพีด้วยเส้นทางแบบไหน ส่วนใหญ่ทุกๆ คนก็จะต้องได้แวะมาเยือน “อ่าวต้นไทร” เหมือนๆ กันหมด.....เพราะฉะนั้น “อ่าวต้นไทร” จึงเปรียบเสมือนประตูของหมู่เกาะพีพีซึ่งเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศครับ)

...................................วางอวนใต้แสงทอง...................................

...............หลายๆ ครั้ง.....เงาก็งดงามกว่ารายละเอียดที่แจ่มชัด...............

     น้ำทะเลบริเวณด้านหน้าอ่าวต้นไทรในช่วงเวลาที่คลื่นลมสงบจะมีลักษณะเป็นสีเขียวมรกตใส (แต่ไม่ใสมากเท่ากับเมื่อครั้งอดีตก่อนที่จะมีการสร้างท่าเทียบเรือเฟอรี่) หาดทรายเป็นสีน้ำตาลอ่อนค่อนข้างขาว น่าเสียดายที่แนวปะการังใต้ท้องทะเลด้านหน้าอ่าวซึ่งเคยอุดมสมบูรณ์และมีสีสันสดใสได้ตายลงจนเกือบหมดแล้วในปัจจุบัน พื้นที่ริมชายหาดมีสิ่งปลูกสร้างประเภทโรงแรม รีสอร์ท และร้านกินดื่มตั้งเรียงรายปะปนอยู่ติดๆ กัน.....ตลอดแนวชายฝั่งเราสามารถมองเห็นเรือหางยาวจำนวนมากจอดลอยลำเฝ้ารอคอยนักท่องเที่ยวซึ่งต้องการจะเหมาเรือไปยังสถานที่ท่องเที่ยวแห่งอื่นๆ รอบๆ หมู่เกาะพีพี

ย่านสนุกของคอสุรา..........สถานที่อันน่าเอือมระอาสำหรับผู้รักความสงบ

Walking Street จุดศูนย์รวมความบันเทิงยามราตรีของ หมู่เกาะพีพี

     เป็นเรื่องที่แน่นอนว่าอาหารการกินบนเกาะกลางทะเลโดยทั่วไปจะมีราคาสูงกว่าบนผืนแผ่นดินใหญ่ประมาณ 1.5 – 3 เท่า ซึ่งราคาอาหารและเครื่องดื่มบนเกาะพีพีดอนเองก็หนีไม่พ้นกฎข้อนี้เช่นเดียวกัน.....อย่างไรก็ตาม.....หากคุณลองใช้ความพยายามในการเดินสำรวจ “ถนนคนเดิน” บริเวณอ่าวต้นไทรให้ถ้วนทั่วสักหน่อย คุณก็อาจได้พบร้านขายไก่ทอดชิ้นโตราคาค่อนข้างประหยัด หรืออาจเจอร้านข้าวราดแกงราคาไม่สูงนักที่คนในท้องถิ่นใช้ฝากท้อง หรือถ้าคิดว่ารสชาติอาหารพื้นเมืองราคาย่อมเยาจะไม่ถูกปาก แต่คุณก็ไม่ได้มีงบประมาณมากพอจะหม่ำอาหารแพงๆ ทุกมื้อ ทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมขอแนะนำให้ใช้บริการอาหารสำเร็จรูปที่ร้านสะดวกซื้อซึ่งมีทั้ง 7 – 11 และ Family Mart ดำรงชีวิตไปพลางๆ ระหว่างติดเกาะ

...................................ระหว่างเส้นทางสู่ หาดยาว...................................

.........................โดดเดี่ยว เดียวดาย.........................

     .....ยามค่ำคืน.....ถนนคนเดินบนเกาะพีพีดอนจะเต็มไปด้วยแสงสี ร้านอาหารหลายๆ แห่งซึ่งเคยมีลูกค้าเบาบางในช่วงเวลากลางวันจะนำเอาอาหารทะเลสดๆ มาจัดวางเรียงแช่ไว้ในน้ำแข็งและเริ่มปิ้งย่างอาหารเหล่านั้นตามรายการที่ลูกค้าสั่ง.....ร้านเช่าหนังสือต่างประเทศ ร้านรอยสัก มีผู้ใช้บริการเดินเข้าออกอยู่เป็นระยะๆ.....นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบางคนกำลังยืนต่อรองราคากับเจ้าของร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก.....ผับบาร์แข่งกันเปิดเพลงและโทรทัศน์จอแบนขนาดยักษ์ส่งเสียงดังกระหึ่มเรียกความสนใจจากผู้คนซึ่งเดินผ่านไปมา เป็นบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกสนุกสนานคึกคักสำหรับคอสุรา แต่เป็นความน่าเอือมระอาสำหรับบรรดานักท่องเที่ยวซึ่งต้องการพักผ่อนอย่างสงบ  

...............ไม่มีใครอยากนั่งกลางไอแดด............... (เตียงพลาสติกริม "หาดยาว เกาะพีพีดอน")

...................................ถนนเพื่อการขนส่ง...................................

     จากอ่าวต้นไทร.....นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งรอบๆ เกาะพีพีดอนได้ไม่ยากเพราะมีการก่อสร้างถนนปูนเชื่อมต่อเส้นทางกับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ เกือบทั่วทั้งเกาะ โดยหากเดินจากอ่าวต้นไทรขึ้นไปทางด้านทิศเหนือก็จะพบกับ “อ่าวโละดาลัม” หรือถ้าค่อยๆ เดินลัดเลาะตามถนนเลียบชายหาดของอ่าวต้นไทรไปทางด้านทิศตะวันออกก็จะได้เจอกับเส้นทางดินซึ่งเชื่อมต่อไปถึง “หาดยาว” และหากคุณคิดว่าตนเองมีเรี่ยวแรงเหลือเฟือ ทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมแนะนำว่าให้คุณหยิบ “แผนที่หมู่เกาะพีพี (Free Map)” ซึ่งมีแจกฟรีตามเคาน์เตอร์ของโรงแรม/รีสอร์ทต่างๆ แล้วเดินขึ้นไปตามเส้นทางสู่ “จุดชมทิวทัศน์เวิ้งอ่าวคู่” ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอ่าวต้นไทร .....สุดท้าย.....คุณจะได้รู้ว่าความเหนื่อยยากลำบากที่สู้อุตส่าห์พยายามเดินขึ้นเขามานั้นคุ้มค่าจริงๆ

...................................ชั่วขณะหนึ่งในความผันแปร...................................

...................................One direction...................................

     อ่าวโละดาลัม : ความสงบงามซึ่งกลับกลาย

     .....นานมาแล้ว.....อ่าวโละดาลัม (Loh Dalum Bay) เวิ้งอ่าวใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะพีพีดอนเคยเป็นเวิ้งอ่าวที่สงบงาม โดยในระยะแรกๆ ของการเปิดให้บริการท่าเทียบเรือเฟอรี่เมื่อหลายปีก่อนจะมีนักท่องเที่ยวซึ่งรักความสันโดษจำนวนไม่น้อยที่ต้องการหลีกเลี่ยงความสับสนวุ่นวายบริเวณอ่าวต้นไทรเดินเท้ามานั่งพักผ่อนริมชายหาดสีเปลือกไข่ของอ่าวโละดาลัม (ระยะทางจากท่าเทียบเรือเฟอรี่อ่าวต้นไทรถึงอ่าวโละดาลัมห่างกันเพียงแค่ประมาณ 100 – 200 เมตร ใช้เวลาเดินเท้าจากท่าเทียบเรือเฟอรี่ไม่เกิน 5 – 10 นาทีก็จะมาถึงอ่าวแห่งนี้ได้อย่างไม่ยากลำบากนัก) สำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งมีบุตรหลานตัวเล็กๆ.....การลงเล่นน้ำ ณ อ่าวโละดาลัมถือได้ว่ามีความปลอดภัยค่อนข้างสูงเนื่องจากพื้นทรายใต้ทะเลบริเวณนี้มีความลาดเอียงต่ำ ทำให้มีอาณาเขตน้ำตื้นที่ยาวไกลกว้างขวาง

ที่ หาดยาว แห่งนี้ยังคงมีร่องรอยความบริสุทธิ์จากอดีตของ หมู่เกาะพีพี หลงเหลืออยู่

.........................ต้นไม้ (แกะสลัก)) กับ ดอกไม้.........................

     ด้วยเหตุที่อ่าวโละดาลัมหันหน้าออกไปทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทำให้อ่าวแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในจุดชมทิวทัศน์ดวงอาทิตย์อัสดงยอดนิยมของเกาะพีพีดอน ทุกๆ วันในช่วงเวลาราว 17.45 – 18.15 น.จะมีนักท่องเที่ยวซึ่งพักค้างแรมบนเกาะแห่งนี้ค่อยๆ เดินมารวมตัวกันเพื่อชื่นชมความงดงามของแสงสีที่แปรเปลี่ยนไปในชั่วขณะซึ่งดวงตะวันกำลังจะลับเลือนหายจากขอบฟ้า.....และเมื่อรัตติกาลเริ่มเยื้องกรายเข้ามาถึง บรรดาผับบาร์ริมชายหาดก็จะเปิดเครื่องเสียงจนดังกระหึ่มต่อเนื่องยาวนานไปอีกหลายชั่วโมง ซึ่งแม้ว่าคุณจะเลือกพักในโรงแรม/รีสอร์ทที่อยู่ห่างจากจุดกำเนิดเสียงกว่า 1 กม.ก็จะยังคงได้ยินเสียงดังตึงๆ จนเตียงสะเทือนไปถึงเวลาตี 2 – ตี 3 ทำให้นักท่องเที่ยวที่เหน็ดเหนื่อยจากการดำน้ำในช่วงเวลากลางวันและต้องการนอนหลับพักผ่อนอย่างสงบบางคนหัวเสียไม่ใช่น้อย.....เป็นบรรยากาศของอ่าวโละดาลัมซึ่งแตกต่างจากเมื่อครั้งอดีตราวกับพลิกฝ่ามือ

...................................เหล่มอง เกาะพีพีเล...................................

...................................กระจก นทีกานต์...................................

     อ่าวยงกาเส็ม : เยือนถิ่นลิงแสม

     ถัดจากอ่าวโละดาลัมไปทางทิศตะวันตกเป็นที่ตั้งของอ่าวเล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งมีหาดทรายสีขาวเนื้อเนียนละเอียด ชาวบ้านท้องถิ่นเก่าแก่ของเกาะพีพีดอนเคยเรียกชื่ออ่าวแห่งนี้ว่า “อ่าวยงกาเส็ม (Yong Kasem Bay)” แต่ผู้ประกอบการทัวร์หมู่เกาะพีพีและนักท่องเที่ยวทั่วไปกลับนิยมเรียกว่า “อ่าวลิง (Monkey Bay)” เนื่องจากเรามักจะพบเห็น “ฝูงลิงแสม” เดินลงมาหากินในบริเวณใกล้ๆ กับชายหาดได้อยู่เสมอ

...................................มรดกซึ่งถูกทอดทิ้ง...................................

...................................เยือน สามหาด...................................

     อ่าวยงกาเส็มไม่มีเส้นทางเดินเท้าเข้าถึง นักท่องเที่ยวซึ่งต้องการจะแวะเวียนไปดูลิงจึงมีทางเลือกเพียงแค่เช่าเรือคายักจากอ่าวโละดาลัมแล้วค่อยๆ พายไปยังอ่าวแห่งนี้ (ถ้าคุณไม่ได้คิดว่าตนเองมีเรี่ยวแรงเหลือเฟือและว่ายน้ำแข็งพอล่ะก็ ทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมไม่แนะนำตัวเลือกนี้เพราะระยะทางที่ต้องพายเรือไปค่อนข้างไกลครับ) หรือไม่ก็เลือกใช้บริการของทัวร์หมู่เกาะพีพีที่โดยปกติจะพานักท่องเที่ยวนั่งเรือมาแวะดูลิงตามโปรแกรมทัวร์ก็ได้ (กรณีที่สภาพอากาศและคลื่นลมไม่เอื้ออำนวยให้นำเรือทัวร์เข้ามายังอ่าวยงกาเส็ม ผู้ประกอบการทัวร์เกาะพีพีส่วนใหญ่จะพานักท่องเที่ยวไปดูลิงที่ “สามหาด” แทนครับ)

...................................ล่องลอยลำ เหนือแนวปะการัง...................................

.........................ยานพาหนะสำหรับการท่องเที่ยว.........................

     สามหาด : ชายหาดสามแห่งใกล้ๆ กัน

     สามหาด (Samhad Beach) เป็นชื่อเรียกของชาดหาดขนาดเล็กสามแห่งที่เรียงตัวอยู่ติดๆ กัน ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะพีพีดอน โดยปกติในโปรแกรมทัวร์หมู่เกาะพีพีของผู้ประกอบการเกือบทุกรายจะมีการจัดช่วงเวลาให้นักท่องเที่ยวแวะดูลิงแสม ซึ่งถ้าผู้ประกอบการไม่ได้พานักท่องเที่ยวไปยังอ่าวยงกาเส็มก็จะต้องพานักท่องเที่ยวมาที่สามหาด (ไม่มีเส้นทางเดินเท้าเข้าถึง “สามหาด” เช่นเดียวกับ “อ่าวยงกาเส็ม”).....อย่างไรก็ตาม.....โอกาสในการพบลิงแสมบริเวณสามหาดนั้นยังน้อยกว่าโอกาสในการพบลิงแสมบริเวณอ่าวยงกาเส็มอยู่พอสมควร (หากโชคไม่ดีอาจไม่ได้เจอลิงแสมบริเวณสามหาดเลยก็เป็นได้ครับ) บางครั้งผู้ประกอบการทัวร์หมู่เกาะพีพีจะนิยมเรียกสามหาดแบบย่อๆ ว่า “หาดลิง (Monkey Beach)” จนทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยสับสนกับชื่อเรียก “อ่าวลิง (Monkey Bay)” ซึ่งหมายถึง “อ่าวยงกาเส็ม (Yong Kasem Bay)”

...............ลิงแสมแม่ลูกอ่อนบริเวณ อ่าวยงกาเส็ม...............

...................................@  Monkey Bay...................................

     จุดชมทิวทัศน์เวิ้งอ่าวคู่ : จุดชมทิวทัศน์จากมุมสูงที่สวยงามที่สุดของหมู่เกาะพีพี

     ความสุขของผู้คนซึ่งเดินทางมาท่องเที่ยวทะเลนั้นส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่การได้เล่นน้ำทะเลใสๆ ได้ดำน้ำดูปะการังสวยๆ หรือได้พบเห็นฝูงปลาจำนวนมาก แต่บางครั้งหากคุณลองเดินขึ้นเขาเพื่อไปชมภาพทิวทัศน์ของท้องทะเลจากมุมสูงดูบ้าง ก็อาจมองเห็นความงดงามในแง่มุมที่แตกต่างและสามารถสัมผัสถึงความสุขเล็กๆ ซึ่งช่วยหล่อเลี้ยงหัวใจได้เฉกเช่นเดียวกับการทำกิจกรรมทางน้ำเหมือนกัน.....สำหรับนักท่องเที่ยวที่พักค้างแรมอยู่บนเกาะพีพีดอนและคิดว่าตนเองมีเวลาว่างมากพอ ทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมแนะนำว่าคุณไม่ควรพลาดการเดินขึ้นไปยัง “จุดชมทิวทัศน์เวิ้งอ่าวคู่ (Phi Phi Viewpoint)” จุดชมทิวทัศน์จากมุมสูงที่สวยงามที่สุดของหมู่เกาะพีพี

...............อุโมงค์ต้นไม้ระหว่างทางเดินขึ้นเขาสู่ จุดชมทิวทัศน์เวิ้งอ่าวคู่...............

...................................เพื่อนร่วมทาง...................................

     “จุดชมทิวทัศน์เวิ้งอ่าวคู่” เป็นจุดชมทิวทัศน์จากมุมสูงที่นักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นทั้ง “อ่าวต้นไทร” และ “อ่าวโละดาลัม” เรียงตัวอยู่ตรงข้ามกันดูคล้ายกับเลนส์เว้าขนาดยักษ์ หากคุณเดินขึ้นมายังจุดชมทิวทัศน์แห่งนี้ในช่วงเวลากลางวันก็จะมองเห็นความแตกต่างของสีน้ำทะเลระหว่าง “อ่าวต้นไทร” และ “อ่าวโละดาลัม” ได้อย่างชัดเจน โดยน้ำทะเลบริเวณอ่าวต้นไทรจะมีลักษณะเป็นสีเขียวอมน้ำเงินเข้มเนื่องจากพื้นทรายใต้ทะเลของอ่าวต้นไทรมีความลาดชันมากกว่า (หากคุณลองเดินจากชายหาดบริเวณอ่าวต้นไทรลงไปในท้องทะเล จะพบว่าความลึกของระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว) ในขณะที่พื้นทรายใต้ทะเลบริเวณอ่าวโละดาลัมมีความชันน้อยและค่อยๆ ลาดเอียงลงสู่ท้องทะเลจึงทำให้มองเห็นน้ำทะเลเป็นสีเขียวอมฟ้าอ่อนๆ (ถ้าคุณเดินจากชายหาดบริเวณอ่าวโละดาลัมลงไปในท้องทะเล จะพบว่าความลึกของระดับน้ำค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละน้อย.....แตกต่างจากอ่าวต้นไทรครับ)

มุมมองแบบกว้างไกลสุดสายตาของ จุดชมทิวทัศน์สวนเฟื่องฟ้า ...................................(Phi Phi Viewpoint 2)...................................

...................................Life On The Rocks...................................

     สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่รู้ว่าจะเดินขึ้นไปสู่จุดชมทิวทัศน์เวิ้งอ่าวคู่ได้อย่างไร ? ทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมแนะนำให้หยิบ “แผนที่หมู่เกาะพีพี (Free Map)” ซึ่งมีวางแจกฟรีๆ ตามเคาน์เตอร์ของโรงแรม/รีสอร์ทต่างๆ ก่อน.....หลังจากนั้นจึงค่อยๆ เดินไปตามเส้นทางในแผนที่ โดยมีข้อสังเกตง่ายๆ ว่าหากคุณเดินขึ้นเขาไปถูกเส้นทางก็จะต้องพบกับด่านเก็บค่าธรรมเนียมรักษาความสะอาดจุดชมทิวทัศน์ (นักท่องเที่ยวทุกคนต้องเสียค่าธรรมเนียมคนละ 20 บาท เพื่อใช้เป็นค่าจ้างพนักงานเก็บขยะจากจุดชมทิวทัศน์นำลงไปทิ้งเบื้องล่างครับ) และเมื่อเดินผ่านด่านเก็บค่าธรรมเนียมไปอีกไม่ไกลคุณก็จะมาถึง “จุดชมทิวทัศน์เวิ้งอ่าวคู่แห่งที่ 1”

...................................ย่ำสนธยา...................................

...................................Light Spirit...................................

     .....แท้จริงแล้ว.....จุดชมทิวทัศน์เวิ้งอ่าวคู่นั้นสามารถแบ่งแยกออกเป็นจุดชมทิวทัศน์ย่อยๆ ได้ทั้งหมด 3 แห่ง ซึ่งถึงแม้ว่าจุดชมทิวทัศน์ย่อยแต่ละแห่งจะสามารถมองเห็นทั้ง “อ่าวต้นไทร” และ “อ่าวโละดาลัม” ได้.....แต่ก็จะมองเห็นเวิ้งอ่าวทั้งสองในมุมมองที่แตกต่างกัน....โดย ณ จุดชมทิวทัศน์แห่งที่ 1 คุณจะยังมองเห็นเวิ้งอ่าวคู่ต้นไทร – โละดาลัมแบบไม่ค่อยเต็มตาสักเท่าไหร่นัก เพราะฉะนั้นทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมแนะนำว่าหากคุณยอมเหนื่อยเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อยแล้วเดินขึ้นเขาตามเส้นทางปูนซึ่งไม่ลาดชันมากนักต่อไปอีกราว 800 เมตร (ล่ะมั้ง ?) คุณก็จะมาถึงจุดชมทิวทัศน์แห่งที่ 2 ซึ่งเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นอ่าวต้นไทร – อ่าวโละดาลัมได้แบบเต็มๆ ตาและยังถือเป็นจุดชมทิวทัศน์เวิ้งอ่าวคู่ที่สวยงามที่สุดในบรรดาจุดชมทิวทัศน์ย่อยทั้ง 3 แห่งด้วย (จุดชมทิวทัศน์เวิ้งอ่าวคู่แห่งที่ 2 มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “จุดชมทิวทัศน์สวนเฟื่องฟ้า” เนื่องจากโดยรอบบริเวณจุดชมทิวทัศน์แห่งนี้มีการปลูกต้นเฟื่องฟ้าไว้เป็นจำนวนมาก)

อ่าวมาหยา เกาะพีพีเล : สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Beach

....................ของใหม่..........ดูอย่างไรก็เก๋ไก๋ไฉไลกว่าของเก่า ๆ....................

     ในยามเย็น.....จุดชมทิวทัศน์เวิ้งอ่าวคู่แห่งที่ 2 (จุดชมทิวทัศน์สวนเฟื่องฟ้า) จะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาหลากสัญชาติซึ่งเดินเท้ามารวมตัวกันเพื่อรอชมภาพดวงอาทิตย์ที่จะค่อยๆ ลับขอบฟ้าลงทางฝั่งทิศตะวันตกของเกาะพีพีดอน เป็นความงดงามแปลกตาซึ่งจะประทับติดตรึงอยู่ในความทรงจำของหลายๆ คนต่อไปอีกตราบนานเท่านาน.....สำหรับจุดชมทิวทัศน์เวิ้งอ่าวคู่แห่งที่ 3 นั้น.....ปัจจุบันไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวนิยมเดินไปเยือนอีกแล้วเนื่องด้วยระยะทางซึ่งไกลห่างจากจุดชมทิวทัศน์แห่งที่ 2 ค่อนข้างมากและเส้นทางเดินก็ไม่ค่อยชัดเจนสักเท่าไหร่นัก แถมภาพบรรยากาศของอ่าวต้นไทร – โละดาลัมที่มองเห็นจากจุดชมทิวทัศน์เวิ้งอ่าวคู่แห่งที่ 3 ก็มีความสวยงามด้อยกว่าจุดชมทิวทัศน์เวิ้งอ่าวคู่แห่งที่ 2 อย่างเห็นได้ชัด (ทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมลงความเห็นร่วมกันว่าไม่มีความคุ้มค่าพอที่คุณจะยอมเหนื่อยเพิ่มเพื่อเดินไปยังจุดชมทิวทัศน์เวิ้งอ่าวคู่แห่งที่ 3 ครับ)

.........................ใจตรงกัน หันทางเดียว.........................

...................................2 ต่อ 2...................................

     หาดยาว : ร่องรอยแห่งความบริสุทธิ์ของเกาะพีพีดอนที่ยังคงหลงเหลือ

     ดังที่ได้กล่าวไว้ตั้งแต่ตอนต้นแล้วว่าจาก “อ่าวต้นไทร” จะมีเส้นทางเดินเชื่อมต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายๆ แห่งรอบเกาะพีพีดอน ซึ่งหากคุณเดินลัดเลาะตามถนนปูนและเส้นทางดินเลียบชายฝั่งไปทางทิศตะวันออกราว 25 – 30 นาทีก็จะมาถึง “หาดยาว (Long Beach)” ชายหาดสวยที่ยังคงหลงเหลือร่องรอยแห่งความบริสุทธิ์ของเกาะพีพีดอนให้ได้เห็น

     “หาดยาว” เป็นหาดทรายสีขาวนวลเนื้อเนียนละเอียดนุ่มเท้า ในช่วงเวลาที่คลื่นลมค่อนข้างสงบน้ำทะเลด้านหน้าชายหาดแห่งนี้จะเป็นสีเขียวอ่อนอมฟ้าใสจนมองเห็นผืนทรายใต้ท้องทะเลได้ถึงระดับความลึก 2 – 3 เมตร ริมชายหาดมีต้นสน ต้นแสม ต้นมะพร้าวขึ้นสลับแผ่กิ่งก้านใบให้ร่มเงาอยู่เป็นระยะๆ และถึงแม้ว่าจะมีรีสอร์ทปลูกเรียงรายอยู่ติดๆ กันตลอดแนวหาด แต่ด้วยความห่างไกลจากท่าเรือเฟอรี่.....ถนนคนเดิน และแหล่งรวมความเจริญต่างๆ ของเกาะพีพีดอนพอสมควร จึงทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวบริเวณหาดยาวยังไม่มากมายจนแออัดพลุกพล่าน

....................ศาลแห่งศรัทธาในป่า Maya Bay....................

.........................ดินแดนมายาแห่ง หมู่เกาะพีพี.........................

     สภาพแวดล้อมของหาดยาวอาจจะเปลี่ยนแปลงไปจากในอดีตบ้าง แต่ก็ยังถือว่าไม่มากมายเมื่อเปรียบเทียบกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมบริเวณอ่าวต้นไทรและอ่าวโละดาลัม หาดยาวจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะกับผู้ซึ่งต้องการจะปล่อยกายปล่อยใจพักผ่อนบนเกาะพีพีดอนในบรรยากาศที่สวยงามและค่อนข้างสงบ สำหรับนักท่องเที่ยวที่จองห้องพักกับรีสอร์ทบริเวณหาดยาวมาล่วงหน้า ทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมแนะนำให้ลองโทรศัพท์สอบถามทางรีสอร์ทด้วยว่าเขามีบริการเรือหางยาวรับส่งจากท่าเรือเฟอรี่ไปยังรีสอร์ทไหม ? เพราะรีสอร์ทบางแห่งบริเวณหาดยาวมีบริการเรือหางยาวรับส่งนักท่องเที่ยวจากท่าเรือเฟอรี่ – รีสอร์ทฟรี (แต่บางแห่งก็อาจคิดค่าบริการครับ)

เห็นภาพนี้แล้วคงไม่ต้องสงสัยว่าเพราะเหตุใด อ่าวมาหยา จึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นอ่าวที่สวยที่สุดของ เกาะพีพีเล

..............................Season Change..............................

     เยี่ยมเยือนเกาะพีพีเล

     หลังจากที่ได้ไปทำความรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญรอบๆ เกาะพีพีดอนจนเกือบถ้วนทั่วแล้ว ต่อไปก็มาถึงคราวของเกาะพีพีเลกันบ้าง สำหรับการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญรอบๆ เกาะพีพีเลนั้นคุณจะมีทางเลือกอยู่เพียงแค่ 2 อย่าง ได้แก่

     1. เหมาเรือเอง : คุณสามารถเลือกเช่าเหมา Speedboat หรือเรือหางยาวได้เองตามความเหมาะสม สำหรับเรือหางยาวจะมีให้เลือกเช่าเหมาได้ก็แต่เฉพาะนักท่องเที่ยวซึ่งพักค้างแรมบนเกาะพีพีดอน.....ส่วน Speedboat นั้นนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเช่าเหมาลำได้ทั้งจากผู้ประกอบการในเขต จ.ภูเก็ต , ผู้ประกอบการย่านอ่าวนาง – หาดนพรัตน์ธารา จ.กระบี่ หรือผู้ประกอบการบริเวณอ่าวต้นไทร เกาะพีพีดอน.....อย่างไรก็ตาม.....ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวหากคุณไม่ติดต่อผู้ประกอบการและชำระค่าใช้จ่ายสำหรับการเหมาเรือไว้เต็มจำนวนล่วงหน้าอย่างน้อย 2 – 4 อาทิตย์ ก็อาจจะไม่สามารถหาเรือเช่าเหมาได้เลยเพราะโดยปกติเรือจะถูกนำไปใช้ในการจัดโปรแกรมทัวร์จนหมด (ที่ไม่สามารถหาเช่าเหมาเรือหางยาวจาก จ.ภูเก็ต หรือจากย่านอ่าวนาง – หาดนพรัตน์ธารา จ.กระบี่ ไปถึงหมู่เกาะพีพีได้ก็เพราะระยะทางที่ยาวไกลเกินกว่า 40 กม.ทำให้การเดินทางโดยเรือหางยาวอาจไม่ปลอดภัยครับ)

..............................ซันมาน ซิ่ง !..............................

.........................เรือหางยาวกลาง อ่าวปิเละ.........................

     2. ใช้บริการทัวร์หมู่เกาะพีพี : ทัวร์หมู่เกาะพีพีนั้นมีให้เลือกทั้งทัวร์เรือหางยาว (เริ่มต้นจากเกาะพีพีดอน) , ทัวร์เรือเฟอรี่ (เริ่มต้นจาก จ.ภูเก็ต) และ Speedboat (เริ่มต้นจาก จ.ภูเก็ต หรือ จ.กระบี่) โดยอัตราค่าบริการทัวร์จะขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้นการเดินทางของโปรแกรมทัวร์ ประเภทของเรือ รวมถึงลักษณะของโปรแกรมทัวร์ที่เลือก.....ปกติ.....ราคาของโปรแกรมทัวร์หมู่เกาะพีพีจะรวมค่าประกันภัย เสื้อชูชีพ หน้ากากดำน้ำ อาหารและเครื่องดื่ม ให้แก่นักท่องเที่ยวอยู่แล้ว (คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลโปรโมชั่นของทัวร์หมู่เกาะพีพี ราคาพิเศษ ! เพิ่มเติมได้จากตารางและหมายเลขโทรศัพท์ในกรอบทางด้านล่างครับ) สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญรอบๆ เกาะพีพีเลที่ผู้ประกอบการทัวร์และผู้ประกอบการเรือเช่าเหมาลำทั้งหลายจะพานักท่องเที่ยวมาเยือนเสมอ ได้แก่ อ่าวมาหยา อ่าวปิเละ อ่าวโละซามะ และถ้ำไวกิ้ง

...............ในอดีต.....อ่าวปิเละเคยสวยงามมากกว่าปัจจุบัน...............

..............................Pileh Lagoon..............................

     อ่าวมาหยา : สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Beach

     อ่าวมาหยา (Maya Bay) เป็นอ่าวซึ่งมีหาดทรายสีขาวบริสุทธิ์ที่มีความยาวมากที่สุดของเกาะพีพีเล เนื้อทรายบนชายหาดเนียนละเอียดเหยียบลงไปแล้วให้ความรู้สึกนุ่มเท้า รอบอ่าวมีแนวภูเขาหินปูนสูงชันโอบล้อมโดยมีปากอ่าวเปิดออกสู่ท้องทะเลทางด้านทิศตะวันตก น้ำทะเลภายในอ่าวมาหยาเป็นสีเขียวมรกตใส สวยงามมากจนบริษัท “ทเวนตี้ เซนจูรี่ ฟอกซ์ (20th Century Fox)” ได้ยื่นหนังสือต่อกรมป่าไม้เพื่อขอเข้ามาใช้สถานที่บริเวณอ่าวมาหยาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “เดอะบีช (The Beach)” เมื่อปี พ.ศ. 2541 โดยทางบริษัทมีการแจ้งต่อกรมป่าไม้ว่าจำเป็นจะต้องมีการปรับแต่งพื้นที่ขุดไถพืชและเปิดร่องทรายหน้าชายหาด รวมถึงนำต้นมะพร้าวมาปลูกเพื่อตกแต่งภูมิทัศน์ประมาณ 60 ต้น ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีเสียงคัดค้านจากบรรดาชาวบ้านในพื้นที่และกลุ่มอนุรักษ์อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี แต่กลุ่มผู้กุมอำนาจรัฐในขณะนั้นก็ยังคงตัดสินใจอนุญาตให้บริษัททเวนตี้ เซนจูรี่ ฟอกซ์เดินทางเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ณ อ่าวมาหยาได้ โดยมีเงื่อนไขคือ ภายหลังจากการถ่ายทำภาพยนตร์เสร็จสิ้นทางบริษัทจะต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและต้นมะพร้าวซึ่งนำมาใช้ตกแต่งภูมิทัศน์ทั้งหมดออกไป รวมถึงจะต้องฟื้นฟูอ่าวมาหยาให้อยู่ในสภาพเดิมเหมือนดังเช่นก่อนการถ่ายทำ

.........................ระยะห่าง ระหว่างลำ.........................

...............อ่าวโละซามะ : ทะเลสีมรกต...............

     .....กองถ่ายทำภาพยนตร์จากไปแล้ว.....แต่ความเสียหายซึ่งเกิดขึ้นกับสภาพแวดล้อมของอ่าวมาหยายังคงอยู่โดยไม่ได้รับการฟื้นฟูให้กลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างสมบูรณ์ดังที่ควรจะเป็น ทำให้นายก อบจ.กระบี่ , นายก อบต.อ่าวนาง , กลุ่มชาวบ้านและประชาชน รวมถึงกลุ่มอนุรักษ์อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี ได้รวมตัวกันฟ้องร้องทั้งเจ้าหน้าที่ , หน่วยงานภาครัฐ และบริษัทเอกชนซึ่งเกี่ยวข้องกับการเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “เดอะบีช” ที่อ่าวมาหยาในความผิดฐานละเมิดเมื่อปี พ.ศ. 2542 .....อย่างไรก็ตาม.....ภายหลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิซัดเข้าทำลายอ่าวมาหยาและพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันในหลายจังหวัดของประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2547 ผู้คนส่วนใหญ่ก็ค่อยๆ ลืมเลือนเรื่องราวความเสียหายของอ่าวมาหยาที่เกิดขึ้นจากการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “เดอะบีช” เมื่อปี พ.ศ. 2542 ไป.....จะยกเว้นก็เพียงแต่กลุ่มผู้ที่เคยต่อสู้เพื่อปกป้องสภาพแวดล้อมของอ่าวมาหยาในครั้งอดีตเท่านั้นที่ยังไม่เคยลืมเลือนเหตุการณ์ดังกล่าวมาจวบจนกระทั่งถึงทุกวันนี้

...............เกาะแห่งเดียว แต่ท่องเที่ยวได้หลายมุม...............

...............นี่คือ จุดดำน้ำตื้นยอดนิยมของ หมู่เกาะพีพี...............

     อ่าวปิเละ : ความผันแปรในห้วงเวลา

     อ่าวปิเละ (Pileh Bay) ในอดีตอาจถือได้ว่าเป็นอ่าวซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศแบบ “ทะเลใน (lagoon)” ที่สวยที่สุดในประเทศไทย อ่าวปิเละเป็นอ่าวซึ่งไม่มีชายหาด ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะพีพีเล โดยรอบอ่าวปิเละถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาหินปูนสูงชันขนาดใหญ่ซึ่งช่วยกำบังคลื่นลมส่งผลให้น้ำทะเลภายในอ่าวนิ่งและใสมากจนสามารถมองเห็นพื้นทรายใต้ทะเลที่ระดับความลึก 2 – 3 เมตรได้อย่างชัดเจน .....แต่ภายหลัง.....หมู่เกาะพีพีต้องประสบพบเจอกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากการที่ภาพยนตร์เรื่อง “เดอะบีช (The Beach)” ซึ่งนำแสดงโดย “ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ (Leonardo DiCaprio)” ออกฉายไปทั่วโลกเมื่อปี พ.ศ. 2543 ทำให้ผู้คนจำนวนมากที่ได้มีโอกาสชมภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวหลั่งไหลกันมายังหมู่เกาะพีพีเพื่อเยี่ยมยลความงดงามของอ่าวมาหยา ส่งผลให้อ่าวแห่งอื่นๆ ซึ่งอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวตามโปรแกรมทัวร์หมู่เกาะพีพีต่างก็ได้รับผลกระทบจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (.....ตามปกติ.....ผู้ประกอบการทัวร์หมู่เกาะพีพีเกือบทุกรายจะพานักท่องเที่ยวไปเยือนอ่าวต้นไทร อ่าวมาหยา อ่าวปิเละ อ่าวโละซามะ ถ้ำไวกิ้ง อ่าวลิงหรือหาดลิง....โดยอาจมีการพาไปยังสถานที่อื่นๆ นอกเหนือจากนี้ตามลักษณะของโปรแกรมทัวร์ซึ่งนักท่องเที่ยวเลือกด้วย เพราะฉะนั้นอ่าวและชายหาดที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากไปเยือนอยู่เสมอก็จะสร้างภาระให้แก่สภาพแวดล้อมรอบๆ เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน)

.........................มหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ.........................

....................ถ้ำไวกิ้ง : ถ้ำสัมปทานรังนกนางแอ่น....................

     จากการลงสำรวจพื้นที่และเก็บข้อมูลหมู่เกาะพีพีครั้งล่าสุดเมื่อต้นปี พ.ศ. 2557 ทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) พบว่าภายในอ่าวปิเละนั้นเต็มไปด้วยสาหร่ายทะเลจำนวนมากซึ่งเจริญงอกงามแพร่ขยายพันธุ์จนครอบคลุมพื้นที่กว่า 1 ใน 4 ของอ่าว (ในการเดินทางมาเยือนหมู่เกาะพีพีครั้งแรกสุดของทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมเมื่อหลายสิบปีก่อน ไม่ปรากฏสาหร่ายทะเลชนิดนี้ภายในอ่าวปิเละครับ) ส่งผลให้พวกเราไม่สามารถสังเกตเห็นความใสของน้ำในบริเวณพื้นที่ซึ่งมีกลุ่มสาหร่ายทะเลเหล่านี้เจริญเติบโตปกคลุมอยู่ ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงที่น่าใจหายสำหรับคนที่ยังคงจดจำภาพความงดงามในอดีตของอ่าวปิเละได้

ถ้าน้ำไม่ใสจริงๆ ก็คงไม่สามารถมองเห็นทะลุลงไปจนถึงพื้นทะเลได้

...............ปะการังเขากวางมีชีวิตซึ่งหลงเหลืออยู่เพียงแค่บางส่วน...............

     อ่าวโละซามะ : จุดดำน้ำตื้นยอดนิยมของหมู่เกาะพีพี

     หากจะกล่าวถึงจุดดำน้ำตื้นที่ผู้ประกอบการทัวร์หมู่เกาะพีพีนิยมพานักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุด เห็นทีจะหนีไม่พ้น “อ่าวโละซามะ (Loh Sarmah Bay)” อ่าวสวยซึ่งไม่มีชายหาดที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะพีพีเล เมื่อหลายสิบปีก่อนใต้ท้องทะเลบริเวณอ่าวโละซามะเคยเต็มไปด้วยปะการังมีชีวิตที่สวยงามมากมาย แต่ภายหลังได้เกิด “ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว” ขึ้นจนทำให้แนวปะการังที่เคยอุดมสมบูรณ์หลงเหลืออยู่เพียงแค่ราวๆ ร้อยละ 20 ของแนวปะการังในอดีต ตัวอย่างของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่เราสามารถพบเห็นได้ในบริเวณอ่าวโละซามะ เช่น ปะการังสมอง ปะการังโขด ปลาสลิดหินลายบั้ง ปลาโนรีครีบยาว เป็นต้น

...................................โฉบเฉี่ยว...................................

...................................รวมฝูง แหวกว่าย...................................

     ถ้ำไวกิ้ง : ถ้ำสัมปทานรังนกนางแอ่น

     ถ้ำไวกิ้ง (Viking Cave) เป็นถ้ำซึ่งมีการเปิดให้ทำสัมปทานเก็บรังนกนางแอ่น ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีเล ในอดีตชาวเรือเคยใช้ถ้ำแห่งนี้เป็นสถานที่จอดพักเรือหลบคลื่นลมในช่วงฤดูมรสุม ต่อมาจึงได้มีการอนุญาตให้เปิดการทำสัมปทานเก็บรังนกนางแอ่น โดยในช่วงระยะแรกๆ ที่หมู่เกาะพีพียังไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกดังเช่นทุกวันนี้ ผู้ประกอบการซึ่งได้รับใบอนุญาตให้ทำสัมปทานเก็บรังนกนางแอ่นภายในถ้ำไวกิ้งเคยเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมกระบวนการเก็บรังนก (คิดค่าเข้าเยี่ยมชมถ้ำคนละ 10 – 20 บาท) แต่ภายหลังปริมาณนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าเยี่ยมชมภายในถ้ำไวกิ้งมีมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของนกนางแอ่น ผู้ได้รับสัมปทานเก็บรังนกจึงตัดสินใจปิดถ้ำไวกิ้งและไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมอีก (ปัจจุบันผู้ประกอบการทัวร์หมู่เกาะพีพีจะจอดเรือลอยลำให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพถ้ำไวกิ้งจากด้านหน้าเฉยๆ โดยไม่มีการพาเข้าไปภายในถ้ำครับ)

     .....และทั้งหมดทั้งปวงที่ได้แนะนำมาจนถึงย่อหน้านี้ ก็คือ ข้อมูลเบื้องต้นของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ รอบหมู่เกาะพีพีซึ่งทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) พยายามรวบรวมมานำเสนอไว้ เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถใช้ประกอบการวางแผนท่องเที่ยวหมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ได้สะดวกยิ่งขึ้น.....

....................ซ่อมสร้างไม่ทันความเสียหาย สุดท้ายก็ย่อมกลายเป็นซาก.................... (ภาพถ่ายปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว บริเวณอ่าวโละซามะ เกาะพีพีเล)

...................................สมองใต้สมุทร...................................

     อนาคตของหมู่เกาะพีพี : คำถามที่ยังต้องเฝ้ารอคำตอบ

     ความเปลี่ยนแปลงนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดาตามธรรมชาติ ไม่มีสิ่งใดเลยที่จะสามารถตั้งคงทนอยู่ได้ถาวรตลอดกาลนาน ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่ต้องแปรเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามเหตุและปัจจัยซึ่งเข้ามากระทบ.....ถึงแม้ว่าผู้เขียนและนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม รวมถึงชาวบ้านท้องถิ่นบนเกาะพีพีดอนหลายๆ คนจะหวังอยากให้ความสวยงามบริสุทธิ์ของหมู่เกาะพีพีฟื้นคืนกลับมาใกล้เคียงกับเมื่อครั้งอดีต.....แต่หากปราศจากความร่วมแรงร่วมใจของกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจอันเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวหมู่เกาะพีพี (ทั้งโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร ผับบาร์ บริษัททัวร์ ฯลฯ) ไม่มีการรณรงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกแห่งการอนุรักษ์ให้แก่บรรดานักท่องเที่ยวเรือนแสนซึ่งเดินทางมายังหมู่เกาะแห่งนี้อย่างจริงจัง ขาดการเข้มงวดกวดขันควบคุมบังคับใช้กฎหมายจากหน่วยงานภาครัฐ ความหวังที่จะฟื้นฟูสภาพแวดล้อมของหมู่เกาะพีพีก็คงเป็นได้แค่เพียงความฝันเลื่อนลอยซึ่งไม่มีทางเกิดขึ้น.....จนท้ายที่สุดความงดงามของหมู่เกาะแห่งนี้ก็อาจหลงเหลือเป็นเพียงแค่เรื่องเล่าที่เหล่าบรรดาลูกหลานของเราไม่มีวันได้สัมผัสจริงๆ

     ถ่ายภาพ และเขียนบทความ โดย : ตฤณ ณ อัมพร

     เรียบเรียง โดย : อรชร ลลิตผสาน

     สงวนลิขสิทธิ์โดย : เว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com)

     รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับโปรแกรมทัวร์เกาะพีพี

     เงื่อนไขการจอง และการชำระเงิน

     1. บริการจองโปรแกรมทัวร์เกาะพีพีนี้จัดให้เฉพาะผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมซึ่งติดต่อจองล่วงหน้าตามเงื่อนไขด้านล่างต่อไปนี้และมีผลตั้งแต่วันนี้ - 30 เมษายน 2565
     2. โทรศัพท์ตรวจสอบที่ว่างในโปรแกรมทัวร์เกาะพีพีตามหมายเลขติดต่อ (094) 2363295 หรือ (094) 5193645 หรือ (094) 2519214
     3. กรณีมีที่ว่างในโปรแกรมทัวร์ กรุณาชำระเงินเต็มจำนวนของค่าใช้จ่ายทั้งหมดเพื่อทำการจองโปรแกรมทัวร์เกาะพีพี
     4. หลังจากชำระเงินค่าใช้จ่ายแล้ว กรุณาโทรแจ้งการชำระเงินตามหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อจองโปรแกรมทัวร์เกาะพีพีในข้อ 2.
     5. หลังจากทีมงานตรวจสอบยืนยันการชำระค่าใช้จ่ายเสร็จเรียบร้อย ท่านจะได้รับหลักฐานยืนยันการจองภายใน 24 - 72 ชม. ทางอีเมล์ เพื่อนำไปแสดงในวันเดินทาง (กรณีที่ทีมงานตรวจสอบไม่พบการโอนค่าใช้จ่ายจริง ทีมงานจะติดต่อขอให้ท่านส่งหลักฐานการชำระค่าใช้จ่ายมาทางอีเมล์หรือแฟกซ์เพื่อทำการตรวจสอบอีกครั้ง)
     6. เว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) ไม่มีความประสงค์หรือนโยบายใด ๆ ที่จะกระทำการเพื่อหลอกลวง ทุจริต หรือ ฉ้อโกงท่านในทุกกรณี หากทางเว็บไซต์ไม่สามารถสำรองโปรแกรมทัวร์ตามเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้นนี้ให้แก่ท่านได้ ทางเว็บไซต์ยินดีคืนค่าใช้จ่ายซึ่งท่านได้ชำระไว้แล้วเต็มจำนวนให้ทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น
     7.ผู้รับผิดชอบทัวร์เกาะพีพี แบบที่ 1 , 3 : ผู้ประกอบการใบอนุญาตเลขที่ 34/00212 และ ผู้รับผิดชอบทัวร์เกาะพีพี แบบที่ 2 , 4 : ผู้ประกอบการใบอนุญาตเลขที่ 33/04697

      การชำระเงิน     โดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารด้านล่างนี้เท่านั้น
 

     การแจ้งยกเลิก / เปลี่ยนแปลงการจองทัวร์เกาะพีพี


วันปกติ  : กรณีแจ้งยกเลิก / เลื่อนการเดินทางก่อนวันเดินทาง  7 วันขึ้นไป หักค่าดำเนินการ 290 บาทต่อ
                 นักท่องเที่ยว 1 ท่าน
               : กรณีแจ้งยกเลิก / เลื่อนการเดินทางน้อยกว่า  7 วัน ขอสงวนสิทธิ์ในการงดคืนเงินค่าโปรแกรม
                 ทัวร์  100%

เทศกาล : กรณีแจ้งยกเลิก / เลื่อนการเดินทางก่อนวันเดินทาง 10 วันขึ้นไป หักค่าดำเนินการ 290 บาทต่อ
                 นักท่องเที่ยว 1 ท่าน
               : กรณีแจ้งยกเลิก / เลื่อนการเดินทางน้อยกว่า  10 วัน ขอสงวนสิทธิ์ในการงดคืนเงินค่าโปรแกรม
                 ทัวร์  100%
               

     หมายเหตุ

-  รายละเอียดโปรแกรมสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของสภาพคลื่นลม และสภาวะอากาศ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก และผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องแจ้งถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้นักท่องเที่ยวทราบล่วงหน้า

-  ราคานี้มีผลตั้งแต่ วันนี้ - 30 เมษายน 2565 เท่านั้น